องุ่นแดง

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

องุ่น เป็นอาหารบำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหาร ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีหลายชนิด สารอาหารที่สำคัญ คือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์อีกประมาณ 7-8 ชนิด น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเหล็ก และแคล   เซี่ยมองุ่นยังสามารถนำไปทำเหล้าองุ่น ซึ่งเป็นเหล้าบำรุง ส่วนเครือและราก ใช้เป็นยาขับลม ขับปัสสาวะ รักษาโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอ็นกระดูก และมีฤทธิ์ระงับประสาท แก้ปวด แก้อาเจียนอีกด้วย
การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้

การยับยั้งเซลล์มะเร็งด้วยสารสกัดจาก…’องุ่นแดง’

โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนและทำให้เกิดโศกนาฎกรรมอย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชนทุกชาติ ทุกภาษา  ในวงการแพทย์พบว่าโรคที่มีอัตราการตายสูงมาก คือ โรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง  ก่อกำเนิดมาจากเซลล์มะเร็งที่เกาะตามอวัยวะต่างๆ  เปลี่ยนสภาพในร่างกาย แล้วเปลี่ยนไปเป็นเนื้อร้ายเจริญเติบโตและขยายตัวในหลอดเลือด และน้ำเหลือง จนในที่สุดกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายจนยากแก่การรักษา  โดยเฉพาะหากกระจายไปที่ส่วนสำคัญ เช่น ปอด ตับ และสมอง เป็นต้น ซึ่งอวัยวะดังกล่าวเป็นจุดอ่อนที่เซลล์มะเร็งสามารถเข้าไปทำลายได้ง่าย  แล้วก็จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด

การรักษาโรคหรือเนื้อร้ายนี้ในวงการแพทย์ได้พยายามวิวัฒนาการ  การรักษา  และเยียวยาเป็นเวลาช้านาน

ปัจจุบันมีหลายวิธี คือ การผ่าตัด เคมีบำบัดและรังสีรักษา ซึ่งวิธีการดัง กล่าวก็เป้นเพียงแต่ยับยั้งหรือจำกัดการแพร่กระจายได้ในส่วนหนึ่งเท่านั้น  โดยเฉพาะในทางเคมีบำบัด  และรังสีรักษา อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปากอักเสบ ผมร่วง เป็นต้น   ซึ่งสร้างความเจ็บปวดหรือทุกขเวทนาแก่ผู้ป่วยจนอาจยุติการรักษาและนำไปสู่การสูญเสียชีวิตในที่สุด

“…พบว่าสารสกัดจากกากองุ่นแดงสามารถ ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง จะหยุดการกระจาย และตายไปในที่สุด  ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียก  อะพอพโตซิส (apoptosis)…”

องุ่นแดง (ประกอบด้วย เมล็ด เนื้อ และเปลือก) มาใช้ในการศึกษาฤทธิ์ความเป็นพิษ   ในการยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งตับอ่อน   และมะเร็งท่อน้ำดี   ซึ่งเป็นมะเร็งตับที่มีอุบัติ-การณ์สูงสุด   ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย  พบว่าสารสกัดจากกากองุ่นแดงสามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งและหยุดการกระจาย จนตายไปในที่สุด  ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียก อะพอพโตซิส (apoptosis)
นอกจากนี้ยังมีสาร Ellagic acid  ที่สามารถจับและทำลายพิษของสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะ สาร resveratrol ที่พบมากในผิวจากเปลือกองุ่นแดง     ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ขณะเดียวกันก็  เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันแลัวยังเป็นสารป้องกันและต้านมะเร็งได้   นอกจากนี้ยังมีรายงานจากต่างประเทศว่า สามารถใช้รักษาโรคอัลไซ -เมอร์  พาร์กินสันและ เอดส์ได้อีกด้วย

ดังนั้น  หากเรานำเอาสารสกัดที่ได้จากการแปรรูปขององุ่น  มาใช้ให้เป็นประโยชน์โดย   เฉพาะนำมาสกัดเอาสาร polyphenol   เป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและเป็นสารต้านมะเร็ง  โดยสกัดมาทำยา   ซึ่งเราสามารถใช้เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคร้ายนี้ได้ในอนาคต

040315.sweetscarlet-i

 

ที่มา : http://healththaidiet.blogspot.com/2012/07/blog-post_5357.html

Leave a comment